รีวิว the king eternal monarch สนุกไหม การกลับมาของ ‘อีมินโฮ’ ในโลกคู่ขนานและการเป็นราชัน

Share on facebook
Share on twitter
Share on linkedin

“ขอบคุณนะ… ตลอด 25 ปีที่ผ่านมา การที่ได้รู้ว่าเธอมีชีวิตอยู่ที่ไหนสักแห่ง มันทำให้ฉันเหงาน้อยลง”

the king eternal monarch สนุกไหม ‘The King Eternal Monarch จอมราชัน บัลลังก์อมตะ’ ซีรีส์เปิดตัวแรงที่โชว์ให้เห็นทั้งงานสร้างสุดอลังการ และพล็อตเรื่องที่น่าสนใจได้ตั้งแต่ทีเซอร์ตัวแรกที่ปล่อยออกมา ทั้งยังเป็นผลงานซีรีส์เรื่องแรกของ ‘อีมินโฮ’ ในรอบ 3 ปี นับตั้งแต่โบกมือลาแฟน ๆ เข้ากรมทหารไป การกลับมาครั้งนี้ของสามีแห่งชาติจึงเข้ามาสร้างความคาดหวังเอาไว้ในใจคนดูในทันที ว่ามันจะต้องกลายเป็นอีกหนึ่งซีรีส์แห่งปี ไม่แพ้ Crash Landing On You อย่างแน่นอน

เรื่องย่อ the king eternal monarch สนุกไหม

the king eternal monarch สนุกไหม ซีรีส์แนวโรแมนติก-แฟนตาซี เล่าเรื่องราวของจักรพรรดิ ‘อีกน’ (แสดงโดย อีมินโฮ) กษัติย์หนุ่มแห่งจักรวรรดิเกาหลีที่พยายามจะปิดประตูโลกคู่ขนาน ที่ครั้งหนึ่งถูกเปิดขึ้นออกโดย ‘อีริม’ (แสดงโดยโดย อีจองจิน) อาชญากรร้ายผู้มีศักดิ์เป็นลุงแท้ ๆ ที่พยายามตั้งตนเป็นกบฏเพื่อโค่นล้มอำนาจเก่า และหมายจะฆ่าเขาให้ตายตั้งแต่ยังเด็ก และแม้ว่าปีศาจร้ายตนนี้จะสามารถหลบหนีการตามล่าของเหล่าทหารองค์รักษ์ไปสู่อีกโลกคู่ขนานได้สำเร็จ แต่ทางด้านสายสืบสาวในโลกปัจจุบันอย่าง ‘จองแทอึล’ (แสดงโดย คิมโกอึน) ที่ได้รับรู้ถึงความจริงของเรื่องโลกขนานและภัยร้ายที่กำลังคืบคลานเข้ามาใกล้โลกของเธอมากขึ้นทุกที เธอจึงต้องทำทุกวิถีทางเพื่อปกป้องคนที่เธอรักไว้ให้ได้ ด้วยการร่วมมือกับ อีกน นั่นเอง

เขียนบท : คิมอึนซุก (ผลงานที่ผ่านมา Goblin , Descendants of the Sun , The Heirs ฯลฯ)

กำกับ : แพคซังฮุน (ผลงานที่ผ่านมา Descendants of the Sun , School 2015 ฯลฯ)

จำนวนตอนทั้งหมด : 16 Episodes

นักแสดงนำ :

  • อีมินโฮ แสดงเป็น พระเจ้าอีกน
  • คิมโกอึน แสดงเป็น ลูน่า และ จองแทอึล
  • อูโดฮวาน แสดงเป็น โจอึนซอบ และ โจ ยอง

ช่องทางรับชม : The King Eternal Monarch จอมราชัน บัลลังก์อมตะ

ความรู้สึกหลังดู

โลกคู่ขนานในฉบับเกาหลี

มันก็จริงที่ ‘The King Eternal Monarch จอมราชัน บัลลังก์อมตะ’ อาจไม่ใช่ซีรีส์เกาหลีเรื่องแรกที่พยายามจะดึง ‘ทฤษฎีโลกคู่ขนาน’ มาใช้เป็นแกนหลักในการดำเนินเนื้อเรื่อง เพราะไม่ว่าจะเป็น Signal , Time Slip Dr. Jin , W two worlds ฯลฯ ต่างก็เป็นซีรีส์เกาหลีชั้นเยี่ยมที่เล่าเรื่องราวในโลกคู่ขนานให้ออกมาลึกซึ้งและสนุกสนาน จนสร้างความประทับใจให้คนดูได้อย่างไม่น่าเชื่อ แต่ในขณะเดียวกันก็คงไม่มีซีรีส์เรื่องไหนที่กล้าบ้าบิ่นมากพอจะรื้อประวัติศาสตร์ที่มีอยู่จริงของชาติตัวเองกลับไปจนถึงจุดเปลี่ยนสำคัญบางอย่างในอดีต แล้วล้างไพ่ทั้งหมดที่มีเพื่อสร้างโลกอีกใบขึ้นมาใหม่ โลกที่ไม่เคยมีอยู่จริง โลกที่ไม่มีตัวอย่างใดให้เห็น โลกที่จักรวรรดิเกาหลี (the Kingdom of Corea) ยังไม่สิ้นการปกครองภายใต้ระบอบกษัตริย์แบบทุกวันนี้ และยังคงดำรงการปกครองโดยราชวงศ์มาได้จนถึงปัจจุบัน

เราจึงจะได้เห็นอารยธรรมใหม่ บรรยากาศใหม่ของจักรวรรดิเกาหลี ที่ยังคงกลิ่นอายเดิมที่เราคุ้นเคยไว้ได้อย่างดี แต่ก็มีรสชาติใหม่ ๆ ผสมเข้ามา ทั้งราชวังที่สวยงามตระการตาแบบที่ไม่เคยเห็นที่ไหน รถรางใจกลางเมืองหลวงพร้อมสภาพเมืองที่เปลี่ยนไป หรือแม้กระทั่งพระราชพิธีต่าง ๆ ก็สร้างขึ้นมาใหม่ได้อย่างงดงามและสมจริงจนน่าขนลุก

และเมื่อพูดถึงเรื่องราวของโลกคู่ขนานแล้ว แน่นอนว่าอีกหนึ่งความน่าสนใจของเรื่องนี้ก็ต้องตกไปอยุ่ที่ปม ‘ตัวละคร’ ต่าง ๆ ที่หากว่า ตัวเราในโลกหนึ่งเป็นคนแบบนี้ แต่ตัวเราอีกคนในอีกโลกหนึ่งก็จะกลับเป็นคนละขั้วกันเลยทีเดียว เช่น นิสัยใจคอ พื้นฐานตระกูลและครอบครัว รวมไปถึงชนชั้นทางสังคมที่ต่างเป็นคู่ตรงข้ามของกันและกันเหมือนกับ ‘หยินหยาง’ ทำให้สามารถสอดแทรกประเด็นสังคมสุดฮอตอย่างเรื่อง ‘ความเหลื่อมล้ำในสังคม’ ในเนื้อเรื่องได้อย่างแนบเนียนและน่าสนใจ ส่งผลให้ซีรีส์เรื่องนี้ดูมีคุณค่า และดูคุ้มค่าต่อการรับชมมากเลยทีเดียว

เนื้อเรื่องเปิดปัง แผ่วปลาย คล้ายจะหลับ

และเมื่อเราถูกซีรีส์หลอกล่อให้ตายใจด้วยงานสร้างสุดอลังการแล้ว เราจึงเต็มใจพาตัวเองมานั่งหน้าจอทีวีแล้วเปิดซีรีส์เรื่องนี้ดูอย่างใจจดใจจ่อในทันที ซึ่งการเปิดซีรีส์ด้วยเหตุการณ์การลอบปลงพระชนม์พระเจ้าอีโฮกษัตริย์แห่งจักวรรดิเกาหลี เพื่อทำการแย่งชิงสมับัติชาติอย่าง ‘มันพาชิกช็อก’ ขลุ่ยวิเศษที่จะนำมาซึ่งพลังอำนาจลึกลับมาให้ผู้ถือครอง จนนำไปสู่เรื่องราวในยุคปัจจุบันนั้นถือว่าทำออกมาได้ดีมาก ทั้งฉากแอ็กชันสุดลุ้นระทึก ที่มีส่วนผสมของพาร์ตความเป็นแฟนตาซีและฉากแอ็กชันไว้อย่างลงตัว ซึ่งมุมกล้องที่ใช้ก็ถือว่าแปลกใหม่เหมาะสมในการเล่าเรื่องราวแนว ๆ นี้มาก ไปจนถึงการวางปมดรามาของแต่ละตัวละคร ก็ถือว่าทำออกมาได้อย่างเข้มข้นน่าติดตาม ภาพรวมทั้งหมดในช่วงแรกจึงเรียกได้ว่าสมกับเป็นซีรีส์เกาหลีทุ่มทุนสร้างของปีนี้เลยจริง ๆ

แต่เมื่อผ่านช่วงแรกไปได้ไม่นาน กราฟความน่าตื่นเต้นและน่าติดตามต่าง ๆ ก็ลดฮวบจนน่าตกใจ เพราะว่าใน 1 ตอนที่กำลังจะหมดไปนั้น ซีรีส์แทบไม่ได้ทำอะไรกับเวลาที่เหลือให้คุ้มค่าเลยนอกจากการแนะนำตัวละครให้เราได้พอรู้จักไปอย่างผิวเผิน แล้วทิ้งปมเรื่องในตอนแรกไปซะดื้อ ๆ โดยที่ไม่มีการขยี้หรือขยายความจุดสำคัญใด ๆ เพิ่มเติมอีกเลย เนื้อเรื่องทั้งหมดจึงดำเนินไปอย่างอืดอาดยืดยาด เต็มไปด้วยบทสนทนาหลวม ๆ และมุกตลกแห้ง ๆ ในบางช่วง ที่กล้าพูดเลยว่า ถ้าไม่มีความหล่อสบายตาของ อีมินโฮ ช่วยเอาไว้ ก็อาจจะจอดกับเรื่องนี้ไปตั้งแต่ Ep. แรกนี่แหละ

เสน่ห์ล้นเหลือของ ‘คิมโกอึน’ ที่ช่วย #saveเนื้อเรื่อง เอาไว้ได้

แม้ระหว่างทางที่กำลังฉายซีรีส์เรื่องนี้อยู่จะเจอมรสุมทั้งกระแสซีรีส์ที่ไม่เปรี้ยงอย่างที่คิด หรือจะเกิดกระแสแอนตี้ ‘คิมโกอึน’ ในบทบาทนางเอกคู่กับพระเอกดังอย่าง ‘อีมินโฮ’ ขึ้นทั้งในเกาหลีและไทย ด้วยเหตุผลที่ว่า ‘เพราะไม่สวยพอจึงทำให้ซีรีส์แป้ก’ ‘เพราะไม่เด่นพอจะเคียงคู่กับพระเอกดัง’ หรือแม้กระทั่ง ‘ทำไมถึงเป็นนางเอกได้ทั้งที่หน้าตาธรรมดา’ และอีกสารพัดเหตุผลที่หลายคนอาจยังไม่รู้ว่า ในฐานะคนที่เลือกจะดู Ep. 2 ต่อไป ‘คิมโกอึน’ นี่แหละคือความหวังเดียวของหมู่บ้านเลยก็ว่าได้!

เพราะทั้งตอนของ Ep. 2 นั้นเต็มไปด้วยความน่าเบื่อ อืดอาดยืดยาด และการเล่าเรื่องชวนหลับแทบทั้งสิ้น จนเรื่องราวไม่มีอะไรคืบหน้าไปมากกว่า Ep. 1 เลย แถมยิ่งดูก็ยิ่งรู้สึกได้ว่าคาแร็กเตอร์ ‘พระเจ้าอีกน’ (แสดงโดยอีมินโฮ) นั้น นอกจากการตีความบทบาทและแสดงออกถึงบุคลิกความเป็นกษัตริย์หนุ่มผู้แสนสุขุมและอบอุ่นที่มินโฮเองก็ทำได้ดีแล้ว มุมอื่น ๆ ที่เหลือของตัวละครนี้ก็แทบจะไม่มีอะไรที่ทำให้เราภักดีกับซีรีส์เรื่องนี้ได้อีกต่อไป ทั้งความบทพูดแสนน้ำเน่าที่ชอบโพล่งออกมาแบบไม่รู้เวล่ำเวลา ความเพ้อเจ้อ และดูเหมือนจะไม่สะทกสะท้านอะไรใด ๆ เลย กับการที่เขาหลงมิติมายังที่ไหนก็ไม่รู้ แถมยังหาทางกลับไม่ได้ การพบเจอกับเรื่องราวแฟนตาซีหลุดโลกขนาดนี้ เรากลับไม่ได้เห็นความพยายามแก้ปัญหาหรือท่าทีตระหนกใด ๆ ในฐานะมนุษย์คนหนึ่งแม้แต่น้อย หนำซ้ำยังมีเวลามาใจเย็นตามจีบนางเอกด้วยคำพูดคำจาที่ดูไม่น่าเชื่อถือ พร่ำเพ้อถึงแต่เรื่องอีกโลกหนึ่งอยู่ได้ทุกวี่วัน จนกลายเป็นตัวละครน่ารำคาญไปซะงั้น ความพังหลาย ๆ อย่างใน Ep. 2 ล้วนมีส่วนทำให้ความน่าสนใจของซีรีส์เรื่องนี้มาถึงจุดวิกฤตหนักเข้าจนได้

แต่ในทางตรงกันข้าม กับบทบาทตำรวจหญิงแกร่งอย่าง ‘จองแทอึล’ (นำแสดงโดย คิมโกอึน) ที่ดูเหมือนจะเป็นผู้หญิงธรรมดา ๆ ไม่ได้สวยสะดุดตาอะไรมากมาย (ขนาดแต่งหน้าน้อย ๆ ยังน่ารักขนาดนี้) แต่เธอมาพร้อมคาแร็กเตอร์หญิงสาวผู้แข็งแกร่งทั้งภายนอกและภายใน นิสัยขวางโลกไม่ยอมใคร และเลือกจะเก็บซ่อนความอ่อนไหวเอาไว้ เธอจึงกลายเป็นตัวละครชูโรงที่มีมิติด้านอารมณ์มากกว่าตัวละครไหน ๆ และนั่นจึงเป็นเสน่ห์เดียวของเรื่องราวที่เรายังพอจะไปต่อด้วยได้ แม้ในใจจะแอบคิดว่าซีรีส์เรื่องนี้มันควรดีได้มากกว่านี้ก็เถอะ

รายละเอียดแน่น เผยให้เห็นความใส่ใจ

อย่างที่เกริ่นเอาไว้ในช่วงแรกว่านี่คือซีรีส์ที่งานสร้างอลังการ ภาพสวยสมจริง มุมกล้องปราณีต และนักแสดงก็ดูสวยหล่อน่ามองไปหมด บ่งบอกให้เห็นถึงความพิถีพิถันตั้งใจของทีมงาน จนในใจก็แอบหยวน ๆ ให้กับความพังในบางจุดของเนื้อเรื่องได้อยู่ ถึงแม้ว่าการดำเนินเรื่องยังคงไม่คืบหน้าเท่าไหร่นัก แต่ทุกอย่างก็เริ่มกลับมาเข้าที่เข้าทางบ้างแล้วใน Ep. 3 – Ep. 6 ที่ซีรีส์ยังคงทำหน้าที่หย่อนปมปริศนาเพิ่มเติมและเริ่มขยี้จุดชวนสงสัยในตอนก่อนหน้านี้มากขึ้น แถมแต่ละตัวละครก็เริ่มมีพัฒนาการที่น่าสนใจให้ได้เห็นกันมากขึ้นเรื่อย ๆ

เช่น การเล่าถึงแผนการอันแยบยลของตัวร้ายสุดโหดอย่าง ‘อีริม’ ที่จะกลับมาทวงบัลลังก์คืนในไม่ช้า หรือแม้กระทั่งการมาถึงอีกโลกหนึ่งเป็นครั้งแรกของนางเอก รวมไปถึงชั้นเชิงการเล่าเรื่องของซีรีส์ ที่เริ่มจะผูกโยงเรื่องราวที่ปูทางเอาไว้แต่แรกให้คนดูได้เข้าใจและร่วมลุ้นไปกับตัวละครมากขึ้น แต่ประเด็นน่าสนใจอื่น ๆ ที่จะชวนให้เราหยิบยกขึ้นมาพูดถึงนั้นยังคงมีน้อยมากเหลือเกิน ถ้าแทบกับซีรีส์อื่น ๆ ที่มีจำนวนตอนมากขนาดนี้แล้ว จนหวังว่าใน Ep. ต่อ ๆ ไปซีรีส์จะเริ่มรู้ทันคนดูและพยายามเร่งเครื่องให้มากกว่านี้ เพราะไม่อย่างนั้นความตั้งใจในการทำซีรีส์ของทีมงาน และความตั้งใจในการติดตามดูต่อของคนดู ก็คงจะเสียเปล่าพอ ๆ กันอย่างน่าเสียดาย

เอาเป็นว่ายังไงก็ตาม เราก็ยังไม่ถึงกับหมดหวังกับ ‘The King Eternal Monarch จอมราชัน บัลลังก์อมตะ’ ไปซะทีเดียว เพราะถ้าหากเราลองปรับโฟกัสออกจากตัวบทและการดำเนินเรื่องที่มีปัญหาแล้ว เราก็จะค้นพบว่ายังมีองค์ประกอบอื่น ๆ ที่ทำหน้าที่ของมันได้อย่างดีเยี่ยม ทั้งทัพนักแสดงคุณภาพ ความสวยงามของงานภาพและเพลงประกอบที่เพราะติดหู รวมไปถึงโมเมนต์หวาน ๆ ชวนจิ้นระหว่างราชากับองครักษ์หนุ่ม เอ้ย! ราชากับตำรวจสาวต่างโลก ทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นกำลังใจที่ดี ที่จะทำให้ให้แฟนซีรีส์ยังคงมีหวังและอยากติดตามเป็นกำลังใจให้ทีมงานสร้างผลงานดี ๆ ต่อไปให้ได้อยู่ดีแหละ จริงไหมล่ะ? the king eternal monarch สนุกไหม

บทความที่น่าสนใจ