“ฉันไปถึงแอฟริกา ไปถึงขั้วโลกใต้ก็ยังได้ น่าเสียดายนะที่คุณดันอยู่ที่นี่””
“…คุณเองก็อยู่ที่นั่นเหมือนกัน”
crash landing on you นักแสดงสมทบ เศษเสี้ยวประโยคสนทนาจากหนึ่งฉากสุดประทับใจ ในซีรีส์ฟอร์มยักษ์ส่งท้ายปีนี้อย่าง ‘Crash Landing On You ปักหมุดรักฉุกเฉิน’ ที่เพิ่งออนแอร์ในเกาหลีใต้และถูกปล่อยบนช่องทาง Netflix ได้ไม่นานนัก ก็กลายเป็นกระแสพูดถึงอย่างล้นหลามบนโลกออนไลน์ในทันที แถมเรตติ้งของเรื่องนี้ก็ยิ่งทำลายสถิติตัวเองมากขึ้นเรื่อย ๆ ในทุกสัปดาห์ เรียกได้ว่าสมกับที่เป็นซีรีส์เรือธงของเกาหลีใต้ในปีนี้เลยจริง ๆ
ที่สำคัญต้องยกความดีความชอบให้กับคู่พระนางขั้วแม่เหล็กระดับ A List อย่าง ‘ฮยอนบินและซนเยจิน’ ที่คราวนี้กลับมารับบทนำคู่กันอีกครั้ง หลังจากที่เคยร่วมงานกันมาแล้วครั้งหนึ่งในภาพยนตร์เรื่อง ‘The Negotiation’ ที่ทำเอาคนดูฟินกระจายจนกลายมาเป็นคู่จิ้นที่แฟน ๆ ต่างก็ลุ้นอยากให้เป็นคู่จริงมันซะเลย ก็ทำได้ไงล่ะในเมื่อเคมีของทั้งคู่มันเข้ากั๊นนเข้ากันซะขนาดนี้ ซึ่งแน่นอนว่าใน Crash Landing On You เองก็มีฉากชวนจิ้นให้แฟน ๆ ได้เสพความฟินกันอย่างจุใจ
แถมคราวนี้ยังได้นักเขียนบทสายซีรีส์ โรแมนติก-เมโลดราม่า มือฉมังของฝั่งเกาหลีอย่าง ‘พัคจีอึน’ ที่หลาย ๆ คนอาจเคยได้ชมผลงานสุดปังของเธอกันมาบ้างแล้ว ไม่ว่าจะเป็น My Love From the Star (SBS,2013) และ Legend of the Blue Sea (SBS,2016) ที่เท่านี้ก็สามารถรับประกันได้เลยว่าคุณจะได้รับทั้งความสนุก คุ้มค่า และน่าจดจำไม่ต่างกับผลงานที่ผ่านมาอย่างแน่นอน
เรื่องย่อ ‘Crash Landing On You ปักหมุดรักฉุกเฉิน’ crash landing on you นักแสดงสมทบ
crash landing on you นักแสดงสมทบ ‘ยุนเซริ (รับบทโดย ซนเยจิน)’ ทายาทสาวตระกูลดังในเกาหลีใต้ ที่กำลังเล่นร่มร่อนและเกิดอุบัติเหตุจนพลัดตกเข้าไปในเขตพื้นที่ของประเทศเกาหลีเหนืออย่างไม่ได้ตั้งใจ ทำให้เธอได้พบกับ ‘รีจองฮยอก (รับบทโดย ฮยอนบิน)’ เจ้าหน้าที่หนุ่มจากกองทัพของเกาหลีเหนือที่มาพบกับเธอเข้า และตัดสินใจไม่สังหารเธอตั้งแต่แรกเห็นตามที่กฎหมายได้บัญญัติเอาไว้ แต่เขากลับเลือกที่จะพาเธอไปซ่อนตัวและพยายามช่วยเธอให้หาทางกลับไปที่ฝั่งเกาหลีใต้ได้อย่างปลอดภัยในทันที โดยที่ทั้งเธอและเขาแทบไม่ได้รู้ตัวเลยว่า …ระยะเวลาที่พวกเขาได้อยู่ด้วยกันแม้ว่ามันจะสั้น แต่มันช่างมีความสุขมากกว่าที่ใดบนโลกใบนี้เสียอีก
- ผู้กำกับ : อีจองฮโย (ผลงานก่อนหน้า “Romance is a Bonus Book”)
- เขียนบท : พัคจีอึน (ผลงานก่อนหน้า “The Legend of the Blue Sea”)
ช่องทางการรับชม : Netflix
ความรู้สึกหลังดู
ชอบจริง ๆ เวลาที่หนังหรือซีรีส์เกาหลีพยายามจะนำเสนอความแปลกใหม่ผ่านพล็อตเรื่องหรือแง่มุมของอาชีพแปลก ๆ ที่เรามักจะไม่ค่อยได้พบเห็นหรือแม้กระทั่งให้สนใจในเบื้องลึกของเรื่องราวเหล่านั้นซะด้วยซ้ำ เช่นเดียวกับซีรีส์เกาหลีเรื่องนี้ ‘Crash Landing On You ปักหมุดรักฉุกเฉิน’ ที่เราค่อนข้างเซอร์ไพรส์อยู่เหมือนกัน กับการหยิบเอาเรื่องราวและวิถีชีวิตของ ‘เหล่าสหายในเกาหลีเหนือ’ ดินแดนลับตาที่ทั้งโลกแทบไม่เคยได้สัมผัส มาร้อยเรียงให้เข้ากับเรื่องราวความรักโรแมนติกของหญิงชาย ในสไตล์ซีรีส์เกาหลีออริจินัลที่มีเรื่อง ‘ความรักบนเส้นขนาน’ เป็นจุดขายสำคัญของเรื่อง ประหนึ่งว่ากำลังดู ‘คู่กรรมเวอร์ชันเกาหลี’ อยู่ก็มิปาน (ศัพท์ก็เก่าเกิ๊นน) คือแค่ได้อ่านเรื่องย่อคร่าว ๆ ที่หน้าเว็บไซต์ Netflix ก็สามารถตกคนให้เข้าไปดูต่อได้ไม่ยากแล้วอะ
ซึ่งเราต่างรู้กันดีอยู่แล้วว่าประเทศเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้มีปมขัดแย้งอะไร และมันจะกลายเป็นเรื่องราวอันตรายแค่ไหน ถ้านางเอกของเรื่องอย่าง ‘ยุนเซรี’ บังเอิญร่อนเครื่องร่อนแล้วตกลงไปในระหว่างพรมแดนเกาหลีเหนือ-เกาหลีใต้ หรือที่รู้จักกันในชื่อ ‘DMZ เส้นขนานที่ 38’ ซึ่งในขณะนั้น ‘รีจองฮยอก’ พระเอกของเราก็กำลังลาดตระเวนอยู่ในพื้นที่นั้นพอดี โดยความน่าสนุกอย่างแรกของเรื่องที่อยากจะพูดถึงนั่นก็คือ การที่ซีรีส์สามารถพาคนดูไปเบิกเนตร เพิ่มความรู้ให้สมอง และเปิดมุมมองใหม่ของประเทศลับแลอย่าง ‘เกาหลีเหนือ’ ได้กว้างขวางอย่างที่เราแทบไม่เคยได้เห็นในซีรีส์เกาหลีเรื่องไหนมาก่อนเลยก็ว่าได้ ยอมรับเลยว่าตื่นตาตื่นใจเและตื่นเต้นอยู่ไม่น้อย ที่ได้เห็นได้รู้จักแง่มุมและวิถีชีวิตฉบับคนเกาหลีเหนือมากขึ้น ผ่านการนำเสนอที่ทั้งละเอียดอ่อนและด้วยงานภาพที่สวยงามตระการตา ที่ถึงแม้เราจะรู้ดีอยู่แล้วว่าบางอย่างในภาพเหล่านั้น มันอาจจะไม่ได้สวยงามอย่างที่เราเห็น(เช่นฉากวิ่งบนทุ่งสังหาร) แต่มันก็ทำให้มุมมองที่เคยมีต่อประทศเกาหลีเหนือนั้นเปลี่ยนไปได้มากอยู่เหมือนกัน (นี่สินะอิทธิพลของสื่อ)
คือต้องชื่นชมความใส่ใจของทีมเขียนบทที่สามารถสอดแทรก ‘ความจริง(บางส่วน)’ ลงไปในเรื่องสมมติได้อย่างลื่นไหลและเฉียบคม เพราะทั้งเรื่องเราจะได้เห็นมุกตลกร้ายระหว่างคนเกาหลีใต้(นางเอก) และคนเกาหลีเหนือ(พวกพระเอก) เช่น “เมื่อเรารวมประเทศกัน ฉันจะ…” ที่หากว่าใครได้ดูก็จะรู้ว่ามันฮาและน่าเอ็นดูแค่ไหนตอนที่พูดออกมา แต่ความเป็นจริงแล้วมันช่างน่าเศร้าและขมขื่นเหลือเกิน เพราะเรารู้กันดีอยู่แล้วว่าประโยคนี้มันเกิดขึ้นจริงได้ ‘ยาก’ แค่ไหน
เช่นเดียวกันกับฉากหนึ่งที่นางเอกพูดกับพระเอกก่อนจะจากกันว่า “ฉันไปถึงแอฟริกา ไปถึงขั้วโลกใต้ก็ยังได้ น่าเสียดายนะที่คุณดันอยู่ที่นี่” ใช่ คำบอกลานี้มันอาจจะไม่ได้ลึกซึ้งกินใจอะไรนัก ถ้ามันไม่ได้อยู่ในเรื่องราวของผู้หญิงเกาหลีใต้คนหนึ่ง ที่เริ่มรู้ตัวแล้วว่ากำลังตกหลุมรักชายชาวเกาหลีเหนือคนนั้น …มันจึงเป็นบทสนทนาที่แสนจะง่ายดาย แต่ทว่ามันกลับสร้างความรู้สึกและตกตะกอนอะไรบางอย่างในใจเราได้มากมาย เรียกได้ว่าแค่ 4 ตอนแรก ซีรีส์เรื่องนี้ก็ตีโจทย์ของความรักบนความเจ็บแบบหน่วง ๆ ได้แตกกระจุยไปเลยทีเดียว
เรื่องความสวยงามของงานภาพและดนตรีประกอบ ก็ยังคงท็อปฟอร์มในสไตล์เกาหลีแบบไม่มีตกหล่น จะเรียกว่าเป็นเพราะเสน่ห์และความขลังของสถานที่ต่าง ๆ ในเกาหลีเหนือที่สามารถสะกดเราไว้ให้อยู่กับหน้าจอได้ตลอดก็ว่าได้ มันจึงทำให้เราอยากดูอีก อยากเห็นอีก อยากจะรู้จักมุมมองต่าง ๆ ให้มากกว่านี้อีก แถมเรื่องเคมีนักแสดงแต่ละคนนี่ก็แทบไม่มีมีอะไรให้น่าเป็นห่วง …ฟินหมอนขาดแน่นอน
สุดท้ายนั้นสิ่งหนึ่งที่ประทับใจเราที่สุดก็คือ ซีรีส์เรื่องนี้ทำหน้าที่ ‘สะท้อนสังคม’ ได้อย่างสร้างสรรค์และน่าสนใจ เพราะมันกล้าพูดกล้านำเสนอสังคมในด้านที่คนดูอยากเห็นและให้ความสนใจได้จริง ทั้งเรื่องความเหลื่อมล้ำของทั้งสองประเทศ เรื่องความต่างของภาษา ปัญหาคอร์รัปชันในกองทัพ และชีวิตความเป็นอยู่ของสองสังคมที่แม้จะใกล้กันแค่ไหนแต่ก็เหมือนกับคนไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ผ่านเรื่องราวครบรสที่มีทั้งความรัก ความฮา สืบสวนปริศนา และบู๊ระห่ำได้อย่างอร่อยกลมกล่อม ถือเป็นอีกหนึ่งงานคุณภาพจากแดนกิมจิที่เหมาะสมจะเป็นซีรีส์ฟอร์มยักษ์สำหรับปลายปีนี้จริง ๆ น่ะแหละ (ขอย้ำเลย) crash landing on you นักแสดงสมทบ
เอาเป็นว่าไม่พูดเยอะ เคลียร์งานเคลียร์หัวสมองให้โล่ง ๆ แล้วรีบไปดูเถอะ! และคุณจะได้พบกับคำว่า ‘One Night Miracle’ อีกครั้งอย่างแน่นอนจ้าาาาาา